fbpx

Ford RMA

รีวิว เช็คระยะ Ford ด้วยมาตรฐานที่คุณเชื่อถือได้

รีวิว เช็คระยะ Ford 15,000 กม. ด้วยมาตรฐานที่คุณเชื่อถือได้ ที่ Ford RMA

การตรวจเช็กสภาพรถยนต์ตามระยะทาง ถือว่ามีความสำคัญมาก ทั้งต่อความสมบูรณ์ของรถ และความปลอดภัยของผู้ขับขี่ เพราะการใช้งานรถทุกวัน ย่อมทำให้ระบบต่าง ๆ เกิดการเสื่อมสภาพ หรืออะไหล่มีความชำรุดสึกหร่อ หากยังคงใช้งานต่อไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ สำหรับ Ford RMA มีบริการตรวจเช็กรถยนต์ตามระยะทาง ด้วยมาตรฐานระดับสากล โดยวันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับการเช็กระยะรถที่ 15,000 กิโลเมตร จะมีขั้นตอนการตรวจสอบอย่างไรบ้าง มาติดตามชมกันได้เลย

1. ตรวจเช็กน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับมาตรฐาน โดยระดับน้ำมันที่ปกติ ต้องอยู่กึ่งกลางระหว่างขีดบน (F หรือ Max) และขีดล่าง (L หรือ Min) หากพบว่าระดับน้ำมันเกินกว่ามาตรฐาน อาจเกิดโอกาสรั่วซึมขึ้นได้ แต่หากระดับน้ำมันต่ำกว่ามาตรฐาน อาจทำให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์เกิดความสึกหรอเสียหาย เนื่องจากหล่อลื่นชิ้นส่วนภายในทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งการตรวจเช็กน้ำมันเครื่องตามระยะ จะช่วยให้เครื่องยนต์สะอาด และช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ได้นั่นเอง

2. ตรวจสอบและทำความสะอาดไส้กรองอากาศ ที่มีหน้าที่ดักจับฝุ่นละออง และสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ไม่ให้เข้าไปในระบบเครื่องยนต์  แต่หากปล่อยให้ไส้กรองมีสิ่งสกปรกสะสมเป็นจำนวนมาก ก็อาจจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ รวมทั้งยังสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง จึงควรเปลี่ยนไส้กรองใหม่ หากตรวจพบว่าเกิดการเสื่อมสภาพแล้ว

3. เปลี่ยนกรองอากาศแอร์ และตรวจสอบระบบปรับอากาศ หากใช้งานกรองอากาศอันเดิมมาเป็นเวลานาน ไม่เคยเปลี่ยนอันใหม่เลย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็น และมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เนื่องจากกรองอากาศ จะช่วยดักจับฝุ่นละอองในอากาศ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับอากาศให้ดีขึ้น ทำให้อากาศภายในรถยนต์สะอาด และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ได้

4. ตรวจสอบระบบเบรกทั้ง 4 ล้อ และเช็กสภาพความสมบูรณ์ของยางรถยนต์ หากพบว่ามีส่วนใดเกิดการสึกหร่อหรือเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนใหม่ยางรถยนต์ทันที เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ สำหรับยางรถยนต์ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ สามารถใช้งานต่อไปได้นั้น จะต้องไม่มีรอยแตกร้าวหรือฉีกขาด และความลึกของดอกยางรถยนต์ต้องไม่น้อยกว่า 4 มม. หากเหลือน้อยกว่านี้ อาจทำให้เกิดอันตรายในระหว่างการขับขี่ได้

5. ตรวจเช็กระดับไฟแบตเตอรี่ จะต้องอยู่ในค่ามาตรฐานที่กำหนด โดยค่าแรงดันไฟระดับปกติจะอยู่ระหว่าง 12-12.8 โวลต์ หากตรวจวัดแล้วพบว่ามีค่าต่ำมาตรฐาน แสดงว่าแบตเตอรี่อาจเกิดความผิดปกติ หากไม่เปลี่ยนตามระยะที่กำหนด และยังใช้งานต่อไปจนแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ก็จะทำให้รถสตาร์ตไม่ติด และไฟเลี้ยงรถไม่เพียงพอ 

สำหรับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ จะแตกต่างกันตามประเภท โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  • แบตเตอรี่แบบน้ำ อายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 1-2 ปี 
  • แบตเตอรี่กึ่งแห้ง อายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี 
  • แบตเตอรี่แบบแห้ง อายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 5 ปี 

ทั้งนี้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน การดูแล สภาพอากาศ ฯลฯ

6. ตรวจเช็กระดับช่วงล่างรอบคัน เพื่อประสิทธิภาพในการทรงตัวที่ดีของรถยนต์ และเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่ โดยช่างจะทำการตรวจสอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้แก่  โช้คอัพ ลูกหมาก ลูกปืนล้อ ยางหุ้มเพลา ฯลฯ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนใดเกิดการชำรุดสึกหรอ

7. ตรวจสอบระบบไฟส่องสว่างรอบคัน ทดสอบการทำงานของระบบไฟต่าง ๆ ของนถยนต์ ว่ายังสามารถทำงานได้ตามปกติหรือไม่ ได้แก่ ไฟหน้า ไฟสูง ไฟเลี้ยว ไฟเบรก และไฟถอยหลัง หากพบว่าไฟดวงไหนมีความผิดปกติ จะต้องทำการซ่อมแซม หรือเปลี่ยนใหม่ทันที

Ford RMA พร้อมให้บริการตรวจเช็กรถยนต์ตามระยะ ด้วยทีมช่างมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้มาตรฐานระดับสากล ที่ได้รับการรับรองคุณภาพที่เชื่อถือได้

ลงทะเบียนรับส่วนลด

0
    ตะกร้าสินค้า
    ตะกร้าสินค้าว่างเปล่ากลับสู่ร้านค้า
    Chat with us!
    Instagram