Ford RMA

เจาะลึกเทคโนโลยี Ford Ranger 2025 ที่คุณต้องรู้

เทคโนโลยี Ford Ranger 2025

Ford Ranger ถูกยกย่องให้เป็น รถกระบะที่ อึด ถึก ทน โดดเด่นด้วยการผสาน สมรรถนะอันแข็งแกร่ง เข้ากับเทคโนโลยี และดีไซน์ที่ทันสมัย จนครองใจผู้ใช้งานและได้รับความนิยมอย่างสูง สำหรับเทคโนโลยี Ford Ranger 2025 รุ่นล่าสุดนี้ ยิ่งก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่อัดแน่นหลากหลายฟังก์ชัน ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และความปลอดภัย แต่ยังยกระดับสมรรถนะ ในการขับขี่ ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น บางฟีเจอร์อาจเป็นสิ่งที่คุณยังไม่เคยรู้มาก่อน วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกเทคโนโลยีเหล่านี้ รับรองว่าจะต้องยิ่งถูกใจ ฟอร์ด เรนเจอร์ 2025 คันนี้อย่างแน่นอน!

เทคโนโลยี Ford Ranger 2025

📍ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และความปลอดภัย 

◼️ ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ

เทคโนโลยีที่ช่วย ให้การจอดรถ เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจอดแบบขนาน หรือจอดเข้าซอง โดยระบบจะใช้เซ็นเซอร์ของรถ สแกนหาพื้นที่จอดที่เหมาะสม เมื่อรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ  

◼️ กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา

Ford Ranger 2025 มีกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ให้มุมมองแบบ Bird’s-eye view ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นทัศนวิสัยรอบตัวรถได้แบบมุมสูง  ทำให้การขับขี่ในที่แคบหรือการลุยออฟโรดง่ายขึ้น

◼️ ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)

จะช่วยรักษา ระยะห่างจากรถคันข้างหน้า และสามารถหยุดรถได้ โดยอัตโนมัติ รวมถึงเร่งความเร็วกลับ เมื่อรถคันข้างหน้าเคลื่อนที่ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Stop-and-Go ช่วยให้รถหยุดสนิท และออกตัวได้เอง เมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่อีกครั้ง 

◼️ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ

ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ มาพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) จะช่วยตรวจจับรถ และคนเดินถนนด้านหน้า และช่วยเบรก เพื่อลดความรุนแรงของการชน

◼️ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning)

ระบบจะแจ้งเตือน เมื่อมีความเสี่ยงที่จะชนกับรถคันหน้า ช่วยเพิ่มความตื่นตัวให้กับผู้ขับขี่ และให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อลดความเสี่ยง ในการเกิดอุบัติเหตุ จากการชนด้านหน้า

◼️ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane-Keeping System)

ระบบจะตรวจจับเส้นถนน และช่วยปรับทิศทางรถให้อยู่ในเลน รวมถึงแจ้งเตือนผู้ขับขี่ เมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ  

◼️ ระบบเตือนจุดอับสายตาพร้อมตรวจจับการจราจรขณะถอยหลัง (BLIS® – Blind Spot Information System with Cross-Traffic Alert)

ระบบจะแจ้งเตือน เมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา หรือเมื่อมีรถเคลื่อนที่ผ่าน ขณะถอยหลังออกจากที่จอด 

◼️ ระบบควบคุมรถหลังจากชน (Post-Collision Braking System)

 ช่วยหยุดรถหลังจากเกิดการชน  เพื่อลดความเสียหาย และความรุนแรง ของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นซ้ำซ้อน หลังจากเกิดการชนครั้งแรก

 ◼️ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steer Assist – ESA)

เป็นระบบที่ให้ความช่วยเหลือ และเสริมแรง เมื่อผู้ขับขี่ตัดสินใจ ที่จะหักหลบสิ่งกีดขวาง หรือรถคันหน้า อย่างกะทันหัน ช่วยให้ผู้ขับขี่ สามารถตอบสนอง ต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในสถานการณ์ ที่ไม่สามารถเบรกเพื่อหยุดรถได้ทัน

 ◼️ ไฟหน้าแบบ Matrix LED

มาพร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันไฟแยงตา ให้ความสว่างและทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม ในการขับขี่เวลากลางคืน พร้อมป้องกันไม่ให้แยงตารถคันอื่น (ในรุ่น Stormtrak) 

◼️  ระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting)

ช่วยให้มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบคัน ในเวลากลางคืน โดยสามารถเปิดไฟส่องสว่าง ภายนอกรถได้ตามต้องการ เช่น ไฟหน้า ไฟส่องพื้นจากกระจกข้าง ไฟในกระบะท้าย และไฟส่องแผ่นป้ายทะเบียน โดยสามารถเลือกเปิด-ปิดเฉพาะบางโซน หรือทุกโซนพร้อมกันได้ ผ่านหน้าจอ SYNC 

◼️ ไฟ AUX Lamp ด้านหน้า

ระบบจะทำงาน เมื่อเปิดไฟสูง ช่วยเพิ่มความสว่าง และทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ดี ขณะขับขี่ในเวลากลางคืน หรือในสภาพแสงน้อยมาก ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ (ในรุ่น Stormtrak)

📍 เทคโนโลยีด้านสมรรถนะและการขับขี่

◼️ เกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter และเบรกมือไฟฟ้า

Ford Ranger 2025 มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด (10-Speed Automatic Transmission) ให้การเปลี่ยนเกียร์ของคุณ เป็นไปอย่างราบรื่น และต่อเนื่อง ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นในเมือง และบนทางไกล เป็นไปอย่างนุ่มนวล ในบางรุ่น ยังเป็นคันเกียร์ไฟฟ้า E-Shifter ให้ความรู้สึกทันสมัย เพิ่มความสะดวกสบาย ในการใช้งาน ด้วยการออกแบบที่กะทัดรัด และใช้งานง่าย     

◼️ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมบุกตะลุยทุกเส้นทาง

Ford Ranger 2025 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ  (4×4 / 4WD) ที่ผู้ขับขี่ สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่  (Selectable Drive Modes) ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว และเส้นทางที่แตกต่างกัน ได้อย่างง่ายดาย  

  • Normal: สำหรับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน
  • Eco: เน้นประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
  • Slippery: สำหรับพื้นผิวลื่น เช่น ถนนเปียก หรือน้ำแข็ง
  • Mud/Ruts: สำหรับเส้นทางที่เป็นโคลนหรือมีร่องลึก
  • Sand: สำหรับการขับขี่บนพื้นทราย
  • Baja: สำหรับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูงบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ ในรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง Raptor

ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถ ดึงสมรรถนะสูงสุดของรถ ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมือง การขับขี่บนทางหลวง หรือการลุยเส้นทางออฟโรดที่ท้าทาย 

◼️ ระบบดิฟล็อกไฟฟ้า

Ford Ranger 2025 ถูกออกแบบ ให้พร้อมบุกตะลุย บนเส้นทางสุดวิบาก มาพร้อม ระบบดิฟล็อก ล้อหน้าและหลัง เป็นส่วนหนึ่งของระบบ ขับเคลื่อนสี่ล้อ (4×4) ช่วยเพิ่มสมรรถนะ ในการขับขี่ แบบออฟโรด ทันทีที่เปิดใช้งาน ระบบจะล็อกการทำงาน ของเฟืองท้ายหลัง ทำให้ล้อหลังทั้งสองข้าง หมุนด้วยความเร็วเท่ากัน โดยการทำงาน ของระบบดิฟล็อกไฟฟ้า จะถูกควบคุม ผ่านหน้าจอแสดงผลในรถ  จะหยุดทำงาน เมื่อความเร็วสูงกว่า 41 กม./ชม.   แล้วจะกลับมาทำงาน เมื่อความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. 

◼️ โช้คอัพ FOX Live Valve ระบบช่วงล่างอัจฉริยะที่ปรับได้เรียลไทม์

Ford Ranger 2025  ได้รับการติดตั้ง โช้คอัพ FOX ขนาด 2.5 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี Live Valve ระบบโช้คอัพอัจฉริยะ ที่สามารถปรับการตอบสนอง ได้แบบเรียลไทม์ ตามสภาพการขับขี่ และลักษณะพื้นผิวถนน

โดยระบบ Live Valve จะทำงาน ร่วมกับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ของรถ เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของตัวรถ เช่น ความเร็ว, ตำแหน่งคันเร่ง, การเบรก, การเข้าโค้ง, และสภาพพื้นผิว จากนั้นจะสั่งการ ให้โช้คอัพปรับความหนืด ได้อย่างเหมาะสม ในเสี้ยววินาที ทำให้รถมีการทรงตัวที่ดีเยี่ยม ลดการโคลงตัว และเพิ่มความสบายในการขับขี่  (*Live Valve เทคโนโลยี สำหรับรุ่น 3.0L เท่านั้น)

◼️ เทคโนโลยีช่วยในการลากจูง

Ford Ranger 2025 มีเทคโนโลยี ช่วยในการลากจูงมากมาย ที่ช่วยให้การลากจูง เป็นเรื่องง่าย และปลอดภัยยิ่งขึ้น ทำให้คุณสามารถ ลากจูงสิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการลากรถพ่วง บรรทุกของหนัก หรือการเดินทาง ในเส้นทางออฟโรด

✨ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist)  ช่วยป้องกัน รถไหลถอยหลัง เมื่อออกตัวบนทางลาดชัน และระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ช่วยให้การขับขี่ บนทางลาดชัน เป็นไปอย่างปลอดภัย

✨ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) จะตรวจจับการขับขี่ หากพบความผิดปกติ ระบบจะเข้าแก้ไข โดยอัตโนมัติ ด้วยการใช้เบรก กับล้อใดล้อหนึ่ง หรือมากกว่า และ ลดกำลังเครื่องยนต์ลง หากจำเป็น และระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Roll Over Mitigation) ช่วยควบคุมรถ ให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง และป้องกันการพลิกคว่ำ

✨ ระบบช่วยลากจูง (Tow/Haul Mode) ปรับการทำงาน ของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง ให้เหมาะสมกับการลากจูง รวมถึงปรับน้ำหนักพวงมาลัย เพื่อช่วยให้การขับขี่ราบรื่น และประหยัดน้ำมันมากขึ้น

✨ ระบบช่วยเข้าโค้งด้วยรถพ่วง (Trailer Sway Control) ตรวจจับการแกว่ง ของรถพ่วงและใช้เบรก เพื่อควบคุม ให้รถพ่วง กลับเข้าสู่แนวเส้นทางที่ถูกต้อง

📍 ระบบเชื่อมต่อและระบบอินโฟเทนเมนต์ (Infotainment) 

◼️ หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ รองรับระบบ SYNC® 4A

หน้าจอแสดงผล Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว มาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนต์ SYNC® 4A ใหม่ล่าสุดของ Ford  รองรับการเชื่อมต่อ แบบไร้สายกับ  Apple CarPlay® และ Android Auto™  ให้คุณเข้าถึงแอปพลิเคชันนำทาง สตรีมเพลงโปรด ผ่านระบบเสียงอันทรงพลัง  

◼️ ระบบ Ford Pass Connect

ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อ และควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถยนต์ ได้เพียงปลายนิ้ว ผ่านแอปพลิเคชัน FordPass บนสมาร์ตโฟน ไม่ว่าจะเป็น สตาร์ตเครื่องยนต์จากระยะไกล ล็อกหรือปลดล็อกประตู ตรวจสอบข้อมูลสถานะรถ และตำแหน่งรถได้

และนี่คือเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่ทำให้ Ford Ranger 2025 ไม่ใช่แค่รถกระบะที่แข็งแกร่ง แต่ยังเป็นรถกระบะที่ชาญฉลาด และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว 


ขอบคุณข้อมูล : https://www.ford.co.th/showroom/trucks/ford-ranger , https://desjardins440ford.ca/en/the-2025-ford-ranger?srsltid=AfmBOorinh2q_szVO1FRMsPN5RJ6BpCy8PctCLporBAvwRZX-1Dvnbkx , https://files.infernal.media/galeries/ford/2025/ranger/groupe-b/1.jpg

ลงทะเบียนรับส่วนลด

0
    ตะกร้าสินค้า
    ตะกร้าสินค้าว่างเปล่ากลับสู่ร้านค้า
    Instagram