เตรียมพร้อมก่อนเข้าป่า ขึ้นเขา คู่มือเตรียมตัว Road Trip แบบครบเครื่อง
การเดินทางไกลไปยังสถานที่ธรรมชาติ เช่น การเดินทางเข้าไปในป่าหรือขึ้นเขา ถือเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยงและไม่คุ้นเคย การเดินทางประเภทนี้จำเป็นต้องเตรียมตัวและเตรียมอุปกรณ์อย่างละเอียด เพื่อให้การเดินทางปลอดภัยและสนุกสนานมากที่สุด การเตรียมตัวในการเดินทางไกลนั้นไม่เพียงแค่เกี่ยวกับการเตรียมของหรืออุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังต้องเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง
1. การเตรียมตัวด้านร่างกายและจิตใจ
การเดินทางไกลไปในป่าหรือภูเขานั้นไม่ใช่แค่การนั่งรถหรือนั่งเครื่องบินแล้วถึงจุดหมายในเวลาอันรวดเร็ว การเดินทางประเภทนี้มักจะใช้เวลาหลายวันหรือหลายชั่วโมง จึงต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินป่าหรือการขึ้นเขาที่ต้องใช้ความพยายามและพลังงานในการเดินทาง โดยการฝึกความแข็งแรงด้วยการเดินทางในเส้นทางยากๆ หรือการวิ่งหรือออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความทนทานในระยะยาว จะทำให้ร่างกายสามารถรับมือกับความยากลำบากของการเดินทางได้ดีขึ้น
อีกด้านหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเตรียมใจให้พร้อม เพราะการเดินทางในพื้นที่ที่ห่างไกลจากความสะดวกสบายอาจเจออุปสรรคหรือปัญหาหลายอย่าง เช่น สภาพอากาศแปรปรวนหรือการเดินทางที่เหนื่อยล้า การมีจิตใจที่เข้มแข็งจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ดีขึ้น
2. เสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่จำเป็น
การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับการเดินทางในป่าและภูเขาถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากสภาพอากาศในพื้นที่ธรรมชาติอาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการเลือกเสื้อผ้าที่สามารถตอบสนองต่อสภาพอากาศและกิจกรรมที่ทำได้ดีที่สุดจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง
เสื้อผ้าที่แห้งเร็วและระบายอากาศได้ดี เช่น เสื้อที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ หรือผ้าฝ้ายจะช่วยให้คุณไม่รู้สึกอึดอัดหรือร้อนเกินไป นอกจากนี้ควรเลือก เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว เพื่อปกป้องตัวเองจากแมลงหรือทากในป่า
รองเท้า เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ไม่สามารถขาดได้ หากจะเดินทางในเส้นทางที่ขรุขระ ควรเลือกใช้ รองเท้าบู๊ตเดินป่า ที่รองรับแรงกระแทกและช่วยให้เท้าของคุณไม่เจ็บจากการเดินบนหินหรือทางที่ยากลำบาก
นอกจากนี้ยังควรเตรียม หมวกและแว่นตากันแดด เพื่อป้องกันแสงแดดที่อาจทำร้ายผิวหนังและดวงตาของคุณเมื่อเดินทางในกลางแจ้ง
3. อุปกรณ์การเดินทางที่ควรเตรียม
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์การเดินทาง เราต้องเตรียม เป้สะพายหลัง ที่เหมาะสมกับระยะเวลาและความต้องการในการเดินทาง เป้ที่เลือกควรมีช่องใส่ของที่สะดวกและมีการกระจายน้ำหนักที่ดี เช่น ช่องสำหรับใส่น้ำดื่ม อาหาร หรือเครื่องมือที่จำเป็น และควรเลือกที่มีแผ่นรองหลังเพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บเมื่อสะพายเป็นเวลานาน
ไฟฉาย หรือ ไฟฉายคาดหัว ก็เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะหากคุณต้องเดินทางในช่วงเวลากลางคืนหรือจะต้องตั้งแคมป์กลางป่า ไฟฉายช่วยให้การมองเห็นในที่มืดเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เครื่องมือหลายฟังก์ชัน เช่น มีดพับหรือเครื่องมือที่มีฟังก์ชันหลายอย่าง (Multi-tool) จะช่วยให้เราสามารถใช้ในการเตรียมอาหาร การตัดกิ่งไม้ หรือการซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ได้
ชุดปฐมพยาบาล เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เนื่องจากอาจเกิดการบาดเจ็บจากการเดินทางได้ เช่น การหกล้ม หรือแมลงกัดต่อย ชุดปฐมพยาบาลควรมีสิ่งของพื้นฐาน เช่น ผ้าพันแผล ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ แผ่นแปะและยาห้ามบวม เป็นต้น
4. อาหารและน้ำดื่ม
การเตรียมอาหารและน้ำดื่มสำหรับการเดินทางในป่าหรือภูเขามีความสำคัญมาก เนื่องจากการเดินทางประเภทนี้มักจะมีเส้นทางที่ยาวไกล หรือในบางกรณีอาจไม่มีแหล่งน้ำที่สะอาดให้ใช้
น้ำ เป็นสิ่งที่ต้องเตรียมให้เพียงพอ การเดินทางในพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งน้ำอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ง่าย ควรเตรียมน้ำดื่มให้เพียงพอสำหรับการเดินทาง และอาจเตรียม อุปกรณ์กรองน้ำ หรือ น้ำสะอาดสำรอง เพื่อให้มั่นใจว่ามีแหล่งน้ำที่ใช้ได้ตลอดการเดินทาง
อาหาร ควรเลือกอาหารที่ง่ายต่อการพกพาและไม่เน่าเสียง่าย เช่น ขนมปังแห้ง ข้าวกระป๋อง หรืออาหารสำเร็จรูปที่สามารถปรุงได้ง่าย เช่น ซุปสำเร็จรูปหรือมาม่า นอกจากนี้ ควรเตรียม ขนมที่ให้พลังงานสูง เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง ช็อกโกแลต หรือข้าวเหนียวแห้งที่สามารถให้พลังงานได้ดีในระหว่างการเดินทาง
5. การสื่อสารและการติดตามเส้นทาง
ในการเดินทางเข้าไปในป่าหรือขึ้นเขา สิ่งที่สำคัญมากคือการ ติดตามเส้นทาง และการสื่อสารกับผู้คนภายนอก ควรมี GPS หรือ แผนที่ เพื่อให้สามารถรู้เส้นทางที่ต้องไปและหลีกเลี่ยงการหลงทางได้ นอกจากนี้การพกโทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อสื่อสารได้ในพื้นที่นั้นๆ หรือวิทยุสื่อสาร ก็เป็นสิ่งสำคัญในการรับข่าวสารหรือขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
6. ความปลอดภัยและการจัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน
การเดินทางในป่าหรือภูเขามักจะมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การบาดเจ็บจากการเดินทางหรือการเจอสัตว์ป่า การเตรียมตัวด้วย อุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่น ปฐมพยาบาล ไฟฉาย และเครื่องมือหลายฟังก์ชัน จะช่วยให้สามารถจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีขึ้น นอกจากนี้การ บอกคนที่บ้าน หรือเพื่อนสนิทเกี่ยวกับเส้นทางที่เราจะไปและกำหนดเวลาให้รู้ว่าจะกลับมาหรือไม่ เพื่อให้พวกเขาสามารถแจ้งหน่วยงานช่วยเหลือได้หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
7. การรักษาธรรมชาติ
เมื่อเดินทางไปในพื้นที่ธรรมชาติ เราควร รักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการไม่ทิ้งขยะในป่า ไม่ทำลายธรรมชาติ หรือรบกวนสัตว์ป่า เพื่อให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนและรักษาความสวยงามของธรรมชาติไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็น
อุปกรณ์จำเป็นที่ต้องพก
1. อุปกรณ์นอน
• เต็นท์และผ้าปูรองเต็นท์
• ถุงนอนและแผ่นรองนอน
• หมอนเป่าลม
2. เสื้อผ้าและรองเท้า
• เสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศ เช่น เสื้อกันหนาว เสื้อกันฝน
• รองเท้าเดินป่าที่สวมใส่สบายและกันลื่น
• ถุงเท้าหนาๆ และเสื้อผ้าสำรอง
3. อุปกรณ์ทำอาหาร
• เตาแก๊สพกพาและแก๊สกระป๋อง
• หม้อหรือกระทะขนาดเล็ก
• ช้อนส้อม จาน และแก้วน้ำ
• อาหารแห้งหรืออาหารสำเร็จรูป
4. อุปกรณ์ส่องสว่าง
• ไฟฉายคาดหัวหรือไฟฉายมือถือ
• แบตเตอรี่สำรองหรือพาวเวอร์แบงค์
5. อุปกรณ์อื่นๆ
• ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น
• มีดพกหรืออุปกรณ์อเนกประสงค์
• ถุงขยะเพื่อเก็บขยะของตัวเอง
• ผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์อาบน้ำ
เคล็ดลับเพิ่มเติม
• ควรเดินทางกับเพื่อนหรือกลุ่ม เพื่อความปลอดภัยและช่วยเหลือกันได้ในกรณีฉุกเฉิน
• แจ้งคนใกล้ชิดเกี่ยวกับแผนการเดินทางและเวลาที่คาดว่าจะกลับ
• เคารพธรรมชาติ ไม่ทิ้งขยะ และไม่รบกวนสัตว์ป่า
การเดินทางไกลเข้าป่าหรือขึ้นเขาเป็นการผจญภัยที่ทั้งสนุกและท้าทาย แต่การเตรียมตัวและการเตรียมของที่ดีจะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและสะดวกสบายที่สุด การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสม อุปกรณ์ที่จำเป็น อาหารและน้ำที่เพียงพอ รวมไปถึงการมีแผนการเดินทางและการสื่อสารที่ดี จะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูล : https://www.outdoorgearlab.com/, https://www.nps.gov/